ได้กลายเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้ใช้ facebook ท่านหนึ่งได้มีการแชร์ประสบการณ์ผ่อนบ้านกับธนาคาร โดยที่มียอดชำระอยู่ที่ 10,900 บาท แต่ในจำนวนดังกล่าวหักเงินต้นออกไปเพียง 5.50 บาท ส่วนที่เหลือนั้นได้กลายเป็นดอกเบี้ย ดังนั้นวันนี้เราจะพามารู้จัก วิธีผ่อนบ้าน ช่วยปิดหนี้ ลดความเสี่ยงดอกเบี้ยโหด

ขั้นตอนที่ 1 จะต้องจ่ายตรงเวลา ทำให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มและยอดเงินกู้จะลดลงตามที่ควรจะเป็น และจะเป็นการรักษาเครดิตของเราไว้ให้อยู่ในเกณฑ์ลูกหนี้ชั้นดี แถมมีโอกาสที่จะต่อรองกับสถาบันการเงินได้ แต่ถ้าหากเราจ่ายค่างวดช้า ยอดเงินกู้บ้านก็จะลดลงไปช้าอีก ทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น และอาจโดนปรับคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระที่สูงกว่าดอกเบี้ยปกติ

ขั้นตอนที่ 2 การปรับโครงสร้างหนี้บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย มี 2 แบบด้วยกัน

แบบที่ 1.รีไฟแนนซ์ หรือ Refinance ก็ควรที่จะรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปี เพราะโดยทั่วไปการผ่อน 3 ปีแรก ธนาคารมักให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ค่อนข้างต่ำ และจากปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยมักปรับสูงขึ้นและเป็นแบบลอยตัวมากๆ การรีไฟแนนซ์จึงช่วยให้ผ่อนบ้าน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำอีกครั้ง แต่อาจเสียเวลาเตรียมเอกสารในการขอยื่นกู้ใหม่ทั้งหมด เวลาในการพิจารณาจากสถาบันการงิน และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมในการยื่นกู้ใหม่ ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจดจำนองใหม่ และค่าอากร

แบบที่ 2.รีเทนชั่น หรือ Retention คือ การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน (เจ้าหนี้ปัจจุบัน) หมายความว่าไม่ต้องเปลี่ยนเจ้าหนี้ใหม่ เพียงแค่ทำเรื่องขอลดอัตราดอกเบี้ย ข้อดีนั่นก็คือไม่เสียค่าธรรมเนียมในการขอยื่นกู้ แต่จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาไม่นาน เพราะธนาคารมีประวัติการผ่อนชำระอยู่แล้ว แต่ข้อเสียนั่นก็คือ อัตราดอกเบี้ย อาจไม่ดึงดูดใจเท่าการรีไฟแนนซ์

ขั้นตอนที่ 3 จ่ายโปะไปเลยหรือการจ่ายเกินค่างวดที่กำหนด จะตัดยอดเงินกู้ให้ลดลงเร็วขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายหลังจากนั้นลดลงไปด้วย ซึ่งเราสามารถจ่ายโปะได้ทุกเมื่อตามความสะดวก ตามที่กำลังทรัพย์จะไหว ยิ่งถ้าช่วงไหนโบนัสออก แล้วอยากโปะค่าบ้านให้หมด วิธีนี้ช่วยได้ดีกันเลยทีเดียว แต่ก็ควรจะวางแผนทางการเงินให้ดี มิเช่นนั้นอาจเจอปัญหาตามมาได้ในอนาคตเป็นอันได้

เครดิต : https://www.khaosod.co.th