ในเกมไพ่ป๊อกเด้ง หากต้องการชนะไพ่ในมือเราต้องมีแต้มมากกว่านักพนันที่อยู่ภายในวงขณะนั้น แต่ต้องไม่เกิน 9 แต้ม หากเกินก็ถูกปรับเป็นแพ้ทันทีเช่นกัน และนอกจากการชนะแบบปกติทั่วไปแล้ว ในเกมนี้ยังมีการกำหนดเกี่ยวกับแต้มไพ่พิเศษเอาไว้ด้วย ซึ่งหากใครได้แต้มไพ่ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ ยังได้รับเงินรางวัลมากขึ้นไปกว่าเดิม จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจนักพนันเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายท่านอาจจะรู้จักในส่วนของแต้มไพ่พิเศษกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะใครที่เข้ามาวางเดิมพันในเกมป๊อกเด้งอยู่เสมอ แต่ก็มีบางท่านเช่นกันที่ยังไม่ทราบหรือยังไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง ดังนั้นสำหรับใครที่ยังไม่ทราบลองตามไปดูกันต่อดีกว่า

ไพ่แต้มพิเศษป๊อกแต้มและอัตราในการจ่าย 

เป็นการวมแต้มไพ่ในมือที่มีลักษณะเด่น เมื่อนำมารวมกันจะทำให้เกิดเป็นแต้มที่เรียกว่าพิเศษขึ้นมา อาทิเช่น แต้มไพ่ต่อไปนี้ 

– แต้มไพ่ป๊อก 9 ได้แก่ แต้มไพ่ 2 ใบ เมื่อรวมกันแล้วได้เท่ากับ 9 แต้ม มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

– แต้มไพ่ป๊อก 8 ได้แก่ แต้มไพ่ 2 ใบ เมื่อรวมกันแล้วได้เท่ากับ 8 แต้ม มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 1 เท่า

– แต้มไพ่ป๊อก 9 และ แต้มไพ่ป๊อก 8 แบบสองเด้ง ได้แก่ แต้มไพ่ 2 ใบ ในมือมีดอกเดียวกันหรือมีตัวเลขเดียวกัน มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 2 เท่า

– แต้มไพ่ป๊อก 9 และ แต้มไพ่ป๊อก 8 แบบสามเด้ง ได้แก่ แต้มไพ่ 3 ใบ ในมือมีดอกเดียวทั้งหมด มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 3 เท่า

– แต้มไพ่ตอง ได้แก่ ไพ่ในมือ 3 ใบ เป็นเลขเดียวกันทั้งหมด มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 5 เท่า

– แต้มไพ่เรียงดอก หรือที่เรียกว่า สเตรทฟลัช ได้แก่ไพ่ 3 ใบในมือเป็นเลขเรียงกัน และยังเป็นดอกเดียวกันอีกด้วย มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 5 เท่า

– แต้มไพ่เซียน หรือ แต้มไพ่สามเหลือง ได้แก่ ไพ่ 3 ใบในมือ หน้าไพ่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ ได้แก่ J,Q,K มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 3 เท่า

– แต้มไพ่เรียง ได้แก่ ไพ่ 3 ใบในมือเป็นเลขตัวเลขเรียงกัน มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 3 เท่า

– แต้มไพ่คู่ ได้แก่ ไพ่ 2 ใบแรกในมือ มีตัวเลขเหมือนกัน มีอัตราในการจ่ายอยู่ที่ 2 เท่า

– แต้มไพ่ปกติ จะเป็นการเปรียบเทียบตามตัวเลขที่ปรากฏ ถ้าเสมอกันจะทำการวัดผลที่ดอก

จะเห็นได้ว่าในการวางเดิมพันในเกมไพ่ป๊อกเด้ง นอกจากการชนะแบบปกติแล้ว การได้แต้มไพ่พิเศษก็ช่วยให้เราทำเงินได้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งเกมน่าเล่น และนักพนันสามารถทำเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น